เล่น Play-Doh ดีอย่างไร? เหตุผลจากมุมมองจิตวิทยาเด็กที่ไม่ควรพลาด - Kiddo Pacific

เล่น Play-Doh ดีอย่างไร? เหตุผลจากมุมมองจิตวิทยาเด็กที่ไม่ควรพลาด

Playdoh

หลายคนอาจไม่รู้ว่า Play-Doh ของเล่นแป้งโดว์นุ่มๆ ที่เด็กๆ ชอบเล่นกันทุกวันนี้ มีประวัติที่น่าสนใจ จากผงทำความสะอาดกลายเป็นแป้งโดว์ยอดฮิตและปลอดภัยสำหรับเด็กที่เรารู้จักและรักกันมาจนถึงทุกวันนี้ 

สิ่งที่ทำให้ Play-Doh โดดเด่นไม่ใช่เพียงความนุ่ม สีสันสดใส หรือความสนุกเท่านั้น แต่ยังเป็นของเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการเด็กอย่างรอบด้าน ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา นักจิตวิทยาเด็กและผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กต่างเห็นตรงกันว่า การปั้น เป็นกิจกรรม sensory play ที่ช่วยให้เด็กเล็กได้เรียนรู้และเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ

แล้วทำไมเด็กควรเล่น
Play-Doh
แป้งโดว์ธรรมดาๆ จะเป็นเครื่องมือพัฒนาลูกได้อย่างไร

ให้ลูกเล่น Play-Doh ดีจริงไหม?

ในทุกวันที่เรามองหาของเล่นดีๆ ให้ลูก ไม่ว่าจะเป็น ของเล่นเสริมพัฒนาการ, แป้งโดว์สำหรับเด็ก หรือกิจกรรมที่ช่วยให้ลูกเลิกดูหน้าจอ “Playdoh” มักเป็นคำแนะนำแรกๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก บอกต่อกัน 

มาดูกันว่าทำไมแป้งโดว์ถึงเป็นตัวเลือกที่ดีจนใครๆ ก็แนะนำให้เด็กได้ลองเล่น

การเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ (Hands-on Learning / Active Learning)
ในทางจิตวิทยาการเรียนรู้ (Cognitive Psychology) เชื่อว่าเด็กเรียนรู้ได้ดีที่สุดผ่านการลงมือทำ

แป้งโดว์เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเรียนรู้แบบ “ลงมือทำ” (Hands-on) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาสมองส่วนหน้า (Frontal Lobe) ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการตัดสินใจ

เมื่อเด็กบีบ นวด หรือตัดแป้งโดว์ สมองจะได้รับข้อมูลทางประสาทสัมผัส (Sensory Input) พร้อม ๆ กับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ (Motor Output) ทำให้เกิดการสร้างเส้นใยประสาท (Neural Pathways) ที่แข็งแรงขึ้น 

ของเล่นปลายเปิด (Open-Ended Play) ตามทฤษฎี Piaget

นักจิตวิทยาพัฒนาการชื่อดังอย่าง Jean Piaget (ฌอง เพียเจต์) กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาการทางสติปัญญาผ่านการเล่นอย่างอิสระ (Cognitive Development Theory) และแป้งโดว์จัดเป็น “ของเล่นปลายเปิด” (Open-Ended Toy) โดยสนับสนุนช่วงการพัฒนาที่เรียกว่า “การเล่นตามบทบาทสมมติ” (Symbolic Play) หรือ “การเล่นเชิงสัญลักษณ์” ซึ่งเป็นช่วงสำคัญที่เด็กเริ่มเข้าใจว่าสิ่งหนึ่งสามารถแทนอีกสิ่งหนึ่งได้ (เช่น แป้งโดว์ก้อนกลมแทนเค้กวันเกิด) 

Play-Doh
Play-Doh
Hasbro Toys

การที่ไม่มีกฎตายตัวในการเล่น หรือวิธีการเล่นที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ทำให้เด็กต้องใช้จินตนาการและฝึกการคิดเชิงนามธรรม (Abstract Thinking) และ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ (Creative Problem Solving) ซึ่งเป็นทักษะการเรียนรู้ขั้นสูง (Higher-Order Thinking Skills)  

การควบคุมอารมณ์และการบำบัดทางประสาทสัมผัส (Emotional Regulation & Sensory Therapy)
ตามหลักจิตวิทยา การบำบัดด้วยการสัมผัสเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เด็กจัดการกับความรู้สึกได้
การสัมผัสและนวดแป้งโดว์ที่มีพื้นผิวอ่อนนุ่มและยืดหยุ่นเป็นการกระตุ้นทางประสาทสัมผัส “แบบสงบ” (Calming Sensory Input) เมื่อเด็กเกิดความเครียด ความหงุดหงิด หรือความวิตกกังวล การได้ใช้กล้ามเนื้อมือเพื่อบีบและออกแรงกับแป้งโดว์ เป็นเสมือน “วาล์วระบายอารมณ์” ที่ช่วยให้พลังงานลบถูกถ่ายเทออกไปอย่างสร้างสรรค์ ทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายและสามารถกลับมา ควบคุมอารมณ์ ตัวเองได้ดีขึ้น 

Play-Doh ไม่ได้เป็นแค่กิจกรรมที่ทำคนเดียว แต่ยังเป็นเครื่องมือชั้นยอดในการเรียนรู้ทักษะทางสังคมเมื่อเด็ก ๆ เล่นด้วยกัน 

  • ฝึกการทำงานร่วมกันและการแบ่งปัน (Collaboration and Sharing):

    • เมื่อมีเด็กหลายคนเล่นแป้งโดว์ร่วมกัน พวกเขาต้อง เจรจาต่อรอง (Negotiation) เพื่อใช้สีหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น “ฉันขอใช้สีน้ำเงินปั้นฐานเค้กนะ แล้วเธอใช้สีแดงทำเชอร์รี่”

    • เป็นการฝึก การรอคอย (Turn-taking) และการ เคารพขอบเขต ของพื้นที่การเล่นของเพื่อน

  • เสริมสร้างทักษะการสื่อสาร (Communication Skills):

    • เด็ก ๆ มักจะ อธิบาย ผลงานที่พวกเขากำลังปั้น (“นี่คือจรวดของฉัน มันกำลังจะไปดวงจันทร์!”) ซึ่งเป็นการฝึกการใช้ภาษาและการเล่าเรื่อง (Narrative Skills)

    • พวกเขายังได้ เรียนรู้ที่จะรับฟัง แนวคิดของผู้อื่น และปรับปรุงผลงานของตนเองตามคำแนะนำ (Feedback)

  • การเล่นบทบาทสมมติร่วมกัน (Cooperative Role-Play):

    • เมื่อปั้นอาหาร หรือตัวละครต่าง ๆ เด็ก ๆ จะสร้างสถานการณ์จำลองขึ้นมา เช่น เปิดร้านเบเกอรี่ หรือทำสวนสัตว์ นี่คือรูปแบบของการเล่นที่ช่วยให้เด็ก เข้าใจมุมมองของผู้อื่น (Perspective-Taking) และฝึกการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมตามบทบาท

ไอเดียกิจกรรม Play-Doh สำหรับพ่อแม่

กิจกรรมเหล่านี้เน้นการเรียนรู้แบบลงมือทำ (Hands-on Learning) และการมีปฏิสัมพันธ์

1. เกมปั้นตัวอักษรและตัวเลขมหาสนุก (Literacy & Numeracy)
สิ่งที่เด็กๆจะได้เรียนรู้ คือ การจำรูปร่างตัวอักษร/ตัวเลขและการนับจำนวน 

Play-Doh

2. ห้องครัวสมมติและบทบาทเชฟ (Role-Play & Communication)
สิ่งที่เด็กๆจะได้เรียนรู้ คือ ทักษะทางสังคม, ภาษาและการทำตามคำสั่ง 

Play-Doh Little Chef Starter Set

3. ปั้นเรื่องราวจากนิทาน (Storytelling & Imagination)
สิ่งที่เด็กๆจะได้เรียนรู้ คือ ความเข้าใจเนื้อหา, การเล่าเรื่องและความคิดสร้างสรรค์

4. การทดลองแบบนักวิทยาศาสตร์ (Early Science)
สิ่งที่เด็กๆจะได้เรียนรู้ คือ การสังเกตแบบนักวิทยาศาสตร์

Play-Doh
Play-Doh

5. ปั้นและแสดงอารมณ์ (Emotional Expression & Fine Motor)
สิ่งที่เด็กๆจะได้เรียนรู้ คือ การระบุและจัดการอารมณ์ และการควบคุมกล้ามเนื้อมือ 

ในวันที่ลูกรู้สึกหงุดหงิดหรือเครียด ลองเสนอแป้งโดว์ให้เขา บีบ, ทุบ, หรือฉีก แรงๆ เพื่อให้เป็นช่องทางที่ปลอดภัยในการระบายพลังงานและความรู้สึกด้านลบออกไป

Playdoh…ของเล่นชิ้นเล็กที่ช่วยให้ลูกเติบโตทั้งกาย ใจ และสมอง
เมื่อเราย้อนกลับไปมองภาพรวมทั้งหมด จะเห็นได้ชัดเจนว่าการเล่น Playdoh ไม่ใช่แค่การปั้นให้เป็นรูปสวยๆ แต่เป็น “ช่วงเวลาสำคัญของพัฒนาการเด็ก” ที่เกิดจากการลงมือเล่นอย่างเรียบง่ายที่สุด

ในทุกครั้งที่ลูกใช้มือบีบ คลึง หรือกด ปั้น สมองของเขากำลังเรียนรู้วิธีควบคุมร่างกาย จัดระบบประสาทสัมผัส และสร้างเส้นทางสมองใหม่ๆ ที่จะส่งผลต่อการเรียนรู้ในอนาคต ตั้งแต่การจับดินสอ การเขียนตัวอักษร ไปจนถึงการแก้ปัญหาในชีวิตจริง นี่คือพื้นฐานของการเติบโตที่มั่นคง มาจากกิจกรรมที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ทรงพลังอย่างยิ่งในสายตาของนักจิตวิทยาเด็ก

นอกจากพัฒนาการทางสมองแล้ว Playdoh ยังช่วยให้ลูกเข้าใจอารมณ์ของตัวเอง ผ่านการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ลูกอาจจะบีบ Playdoh ระบายความเครียด หรือปั้นช้า ๆ เพื่อให้ใจสงบ ความรู้สึกทั้งหมดนี้คือ “ภาษาอารมณ์” ที่เขาใช้สื่อสารกับโลกโดยไม่ต้องใช้คำพูด ทำให้ลูกค่อยๆ เรียนรู้การอยู่กับอารมณ์ของตัวเอง และจัดการมันได้ดีขึ้นทุกวัน

ในอีกด้านหนึ่ง ความภูมิใจเล็กๆ ที่เกิดจากการปั้นสำเร็จสักชิ้น เป็นเมล็ดพันธุ์สำคัญของความมั่นใจและความเชื่อในตัวเอง เด็กที่รู้สึกว่า “เราทำได้นี่” จะเติบโตเป็นเด็กที่กล้าคิด กล้าทดลอง และกล้าพยายาม ซึ่งเป็นรากฐานของ Growth Mindset ที่ดีต่อการเรียนรู้ในทุกช่วงวัย

และสิ่งที่สวยงามที่สุด คือช่วงเวลาที่พ่อแม่ได้นั่งข้างๆ ลูก มองดูเขาสำรวจแป้งโดว์ บางครั้งเราช่วยเขานิดหน่อย บางครั้งเพียงแค่ยิ้มและฟังเขาเล่า นี่คือช่วงเวลาที่สร้างความผูกพันอย่างลึกซึ้งโดยไม่ต้องใช้ของเล่นราคาแพง ไม่ต้องเปิดหน้าจอ เพียงแค่ “อยู่กับเขา” ผ่านการเล่นธรรมดาๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขารู้ว่าโลกใบนี้ปลอดภัย และเขาเป็นที่รักเสมอ

เทียบกับของเล่นยุคใหม่มากมาย Playdoh ยังคงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เรียบง่ายที่สุด แต่กลับเติมเต็มพัฒนาการได้รอบด้าน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เป็นของเล่นที่เด็กหลายวัยตั้งแต่ 1–6 ขวบ (หรือมากกว่านั้น) สามารถสนุกได้ทุกวันโดยไม่เบื่อ และทุกครั้งที่ลูกเล่น เขากำลัง “เติบโต” ทีละนิดโดยที่เขาเองอาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

ดังนั้น หากพ่อแม่กำลังมองหา ของเล่นเสริมพัฒนาการ, กิจกรรม sensory play, หรือวิธีลดเวลาหน้าจออย่างเป็นธรรมชาติ Playdoh คือคำตอบที่เหมาะสมที่สุด ทั้งอบอุ่น เรียบง่าย และช่วยให้ลูกได้พัฒนาอย่างแท้จริง

การเล่นกับลูกไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แค่ “อยู่ตรงนั้น” และ “ถามคำถาม” ที่กระตุ้นความคิดของลูกก็เพียงพอแล้ว

ให้ Playdoh เป็นหนึ่งในเครื่องมือเรียนรู้
สำหรับลูกคุณ

ร่วมสร้างความทรงจำดีๆกับลูกไปกับเรา
Hasbro Thailand
Kiddo Pacific Toys

โปรโมชั่นสุดคุ้มใน Shopee และ Lazada ช้อปเลย!