วิธีนั่งคาร์ซีทที่ถูกต้อง พ่อแม่มือใหม่ไม่ควรพลาด

เพราะความปลอดภัยของลูกน้อยคือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญมากที่สุด ดังนั้นเมื่อต้องเดินทางโดยรถยนต์ การเลือกคาร์ซีทอย่างเหมาะสมอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่ต้องรู้วิธีนั่งคาร์ซีทที่ถูกต้องด้วย เพื่อประโยชน์ในการใช้งานอย่างแท้จริง ซึ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ที่อาจยังไม่รู้ว่าควรให้ลูกนั่งบนคาร์ซีทอย่างไรดี เรามีมาแนะนำกัน พร้อมคาร์ซีทรุ่นน่าใช้ที่ไม่ควรพลาด

 

วิธีนั่งคาร์ซีทที่ถูกต้องสำหรับเด็กแรกเกิด

 

การติดตั้งคาร์ซีทหันหน้าเข้าเบาะ (Rear-Facing) เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด จนถึงอายุประมาณ 2 ปี หรือจนกว่าน้ำหนักถึงตามกำหนด เนื่องจากในช่วงวัยนี้ ศีรษะ คอ และกระดูกสันหลังของทารกยังไม่แข็งแรงพอที่จะรองรับแรงกระแทกจากด้านหน้าได้ดี เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือการชนกะทันหัน การหันหน้าเข้าเบาะจะช่วยกระจายแรงกระแทกไปยังพื้นหลังทั้งหมดของคาร์ซีท ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่ศีรษะและกระดูกสันหลัง

ส่วนการนั่งคาร์ซีทหันออก (Forward-Facing) เหมาะสำหรับเด็กโตขึ้นที่สามารถนั่งหลังตรงได้มั่นคง และมีกล้ามเนื้อคอที่แข็งแรงแล้ว โดยทั่วไปจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่อายุ 2 ปีขึ้นไป หรือเมื่อน้ำหนักเกิน 18 กิโลกรัม แต่แนะนำให้ใช้แบบหันหน้าเข้าเบาะให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

 

ข้อควรระวังในการใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด

ในส่วนของการใช้คาร์ซีทเพื่อให้ลูกน้อยได้รับความปลอดภัยสูงสุดนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจในรายละเอียดและข้อควรระวังเหล่านี้

ติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกวิธีเท่านั้น

การติดตั้งผิดตำแหน่ง หรือไม่ยึดให้แน่น อาจทำให้คาร์ซีทหลุดหรือล้มขณะเบรกกะทันหัน ควรศึกษาคู่มือของรุ่นนั้น ๆ อย่างละเอียด และตรวจสอบความแน่นของเบาะทุกครั้งก่อนเดินทาง หรือเลือกใช้ระบบ ISOFIX ที่ติดตั้งง่าย มั่นคง และลดโอกาสเกิดความผิดพลาด

สายรัดต้องกระชับแต่ไม่แน่นเกินไป

สายรัดนิรภัยควรอยู่ในตำแหน่งระดับอกของทารกพอดี ไม่หลุดจากบ่า และไม่บิดเกลียว ต้องกระชับพอที่คุณพ่อคุณแม่จะสอดนิ้วเข้าได้ 1 นิ้ว แต่ไม่ควรแน่นเกินไป เพราะอาจกดทับหน้าอกและขัดขวางการหายใจของลูกได้

ควรเลือกคาร์ซีทที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพ

สิ่งสำคัญในการเลือกคาร์ซีทมาใช้งาน คือควรเลือกคาร์ซีทจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และมีมาตรฐานความปลอดภัย อย่างเช่น มาตรฐาน ECE R44/04 หรือ i-Size (R129) และมีเครื่องหมายรับรองคุณภาพที่ชัดเจน อีกทั้งยังควรหลีกเลี่ยงคาร์ซีทราคาถูกจนผิดปกติหรือไม่มีที่มาที่ชัดเจน เพราะอาจทำจากวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน และอาจแตกหักได้ง่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

หมั่นทำความสะอาดคาร์ซีทอย่างสม่ำเสมอ

เนื่องจากคาร์ซีทต้องสัมผัสกับทั้งคราบเหงื่อ นม หรือน้ำลาย รวมถึงยังสามารถกลายเป็นที่สะสมของแบคทีเรียและเชื้อโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อย ด้วยเหตุนี้จึงควรถอดผ้าหุ้มเบาะออกมาซักทำความสะอาดตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและปลอดภัยสำหรับเด็ก หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแรงหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีกลิ่นแรง รวมถึงควรตรวจสอบและทำความสะอาดซอกมุมต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ เพื่อกำจัดเศษขนมหรืออาหารที่อาจตกหล่นซุกซ่อนอยู่ นอกจากนี้ ควรรอให้คาร์ซีทแห้งสนิท ก่อนนำกลับมาใช้งานเสมอ

ไม่ควรปล่อยให้ลูกนั่งคาร์ซีทนานเกินไป

ถึงแม้คาร์ซีทจะปลอดภัย แต่ไม่ควรให้ทารกนั่งเกิน 1-2 ชั่วโมงต่อครั้ง หรือไม่ควรใช้คาร์ซีทแทนเปลนอน โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน เพราะท่านั่งกึ่งเอนของคาร์ซีทที่นานเกินไปอาจส่งผลต่อการหายใจและพัฒนาการของกระดูกสันหลังในระยะยาวได้ หากต้องเดินทางไกล ควรหยุดพักเป็นระยะเพื่อนำลูกน้อยออกจากคาร์ซีทให้ได้ขยับตัวบ้าง

อย่าวางคาร์ซีทบนพื้นที่ไม่มั่นคง

หลังจากที่คุณพาลูกน้อยออกจากรถยนต์แล้ว อย่าใช้คาร์ซีทวางบนโต๊ะ โซฟา หรือพื้นผิวที่ไม่เรียบ หรือพื้นลาดเอียงเด็ดขาด เพราะคาร์ซีทอาจล้มคว่ำและเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ง่าย ทางที่ดีที่สุดคือหากไม่ได้ใช้งานในรถแล้ว ควรย้ายลูกน้อยออกจากคาร์ซีททันที

อย่าปล่อยให้เด็กอยู่ในคาร์ซีทโดยไม่มีผู้ดูแล

แม้คุณจะติดตั้งคาร์ซีทแน่นหนาและถูกต้องแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ควรปล่อยเด็กไว้ในคาร์ซีทตามลำพังนาน ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอยู่ในรถที่ปิดกระจก เพราะเสี่ยงต่อภาวะร้อนเกินไป (Heatstroke) หรือขาดอากาศหายใจได้ง่าย ควรมีผู้ใหญ่อยู่ใกล้ชิดและคอยดูแลลูกน้อยเสมอ

 

แบรนด์คาร์ซีทน่าใช้ เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกน้อย

การเลือกคาร์ซีทที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ลูกน้อยของคุณ หากคุณกำลังมองหาคาร์ซีทที่ตอบโจทย์ เรามีแบรนด์ยอดนิยมมาแนะนำ ดังนี้

Chicco

แบรนด์จากอิตาลีที่โดดเด่นในการออกแบบคาร์ซีทตามหลักสรีรศาสตร์ของเด็ก พร้อมระบบป้องกันการกระแทกรอบด้านเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยมีรุ่นยอดนิยมคือ

• Chicco KeyFit เป็นคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีระบบ ISOFIX และเทคโนโลยี SuperCinch เพื่อให้ติดตั้งได้แน่นและถูกต้องเป็นพิเศษ ตัวเบาะผลิตจาก EPS Foam ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันการกระแทกจากการชน น้ำหนักเบา ทำให้สะดวกในการขนย้าย เหมาะกับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการหาคาร์ซีทมาช่วยเพิ่มความปลอดภัยและคล่องตัวในการเดินทาง
• Chicco MyFit Zip Air เป็นคาร์ซีทแบบ 2-in-1 สามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งแบบ Harness สำหรับเด็กเล็ก และ Booster สำหรับเด็กโต มาพร้อมระบบ DuoGuard™ ช่วยป้องกันการกระแทกด้านข้างทั้งศีรษะและลำตัว มีตัวเชื่อมต่อคาร์ซีทแบบพรีเมียมเข้ากับเบาะรถยนต์ และระบบ SuperCinch® LATCH attachment ช่วยให้การติดตั้งสะดวกง่ายดาย เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการคาร์ซีทใช้งานได้ยาวนาน
• Chicco NextFit รุ่นนี้โดดเด่นที่ความยืดหยุ่นในการใช้งานและการติดตั้งที่ง่ายดาย มาพร้อม SuperCinch® LATCH tightener อุปกรณ์ยึดคาร์ซีทเข้ากับเบาะรถยนต์ สามารถปรับสายรัดให้แน่นได้โดยใช้แรงเพียงเล็กน้อย และเทคโนโลยี DuoGuard® side-impact protection ช่วยลดแรงกระแทกจากด้านข้าง ทั้งศีรษะและลำตัว ปกป้องลูกน้อยตลอดการเดินทาง เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการคาร์ซีทที่สามารถใช้งานได้นานหลายช่วงวัยของลูก
• Chicco OneFit เป็นรุ่นที่ออกแบบให้ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กเล็กถึงเด็กโต รองรับทั้งการติดตั้งคาร์ซีทหันหน้าเข้าและหันหน้าออก มีระบบ SuperCinch® LATCH attachment ช่วยให้การติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยเด็กเข้ากับตัวรถได้สะดวก กระชับแน่น และถูกต้อง พร้อมเทคโนโลยี DuoGuard™ ช่วยป้องกันการกระแทกด้านข้างทั้งศีรษะและลำตัว เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการซื้อคาร์ซีมครั้งเดียวใช้ได้ยาวนาน

 

การเลือกและใช้งานคาร์ซีทแรกเกิดอย่างถูกวิธี คือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยในทุกการเดินทาง หากคุณกำลังมองหาคาร์ซีทที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้ แนะนำให้เลือกแบรนด์คุณภาพอย่าง Chicco จากอิตาลี โดยคาร์ซีททุกรุ่นของ Chicco มาพร้อมการรับประกันนาน 5 ปี มั่นใจทั้งเรื่องความปลอดภัยและบริการหลังการขาย สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ที่ Kiddo Pacific พร้อมรับสินค้าภายใน 1-3 วันได้เลย !

ข้อมูลอ้างอิง

• ปลอดภัยกว่าเมื่อลูกนั่ง Car sea. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 จาก https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/ลูกนั่ง-car-seat